พระราชบัญญัติงาช้าง พ.ศ. ๒๕๕๘
เพื่อให้เป็นไปตามกฏหมายดังกล่าว สมาชิกทุกท่านต้องอ่านทำความเข้าใจและปฏิบัติตามอย่างเคร่งคัด
พระผงรุ่นแรก หล...
พระผงรุ่นแรก หลวงปู่สุข วัดโพธิ์ทรายทอง
" อันของ ดี มีอยู่แต่รู้ยาก
คนรู้มากไม่รู้ ดี มีอีกโข
อันของ ดี ใช่อยู่ที่คำโว
ต้องคนรู้ดูเป็นจึงเห็น ดี "

" โยภาวนาภิมัณฑัสสะ ปูชังนิจจังกะโรติโส ลาภัง ยะสัง สุขาทีนิ สัพพะทาอะธิคัชชะตีติ " นะโมพุทธายะ นะโมนะนะ 3จบ

(พระครูภาวนาภิมนฑ์)...หลวงปู่สุข ธรรมโชโต วัดโพธิ์ทรายทอง อ.ละหานทราย จังหวัดบุรีรัมย์ เกจิดังของอีสานใต้ ที่ชั่วโมงนี้ดังระดับประเทศ
...หลวงปู่สุข วัดโพธิ์ทรายทอง หลวงปู่สุข วัดโพธิ์ทรายทอง ท่านนับเป็นอาจารย์อีกรูปหนึ่งของหลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี ท่านพบหลวงปู่สุข คราวปลุกเสกงาน25พุทธศตวรรษ ที่ท้องสนามหลวง ขณะนั้นหลวงปู่โต๊ะ ท่านดังมาก ซึ่งเวลาพักจากปลุกเสกในพิธีนี้ หลวงปู่โต๊ะท่านทราบได้ด้วยจิต ว่าหลวงปู่สุขท่านเก่งมากมีพลังจิตแก่กล้ามาก เวลาพักปลุกเสกท่านให้ลูกศิษย์พาเข้าไปกราบหลวงปู่สุขเลย และขอฝากตัวเป็นศิษย์ ซึ่งภายหลังท่านได้ต่อวิชาหลายอย่างจากหลวงปู่สุข ขณะปลุกเสกงาน25พุทธศตวรรษนั้น ฝนตกหนัก ลูกศิษย์ท่านก็เอาใบจากมาทำเพิงบังฝน ลูกศิษย์เปียกปอนกันหมด แต่หลวงปู่สุขท่านจีวรไม่ได้เปียกฝนเลยแม้แต่น้อย จนเป็นที่กล่าวขานถึงความศักสิทธิ์ หลวงปู่สุขท่านเป็น"พระอรหันต์"ในที่ห่างไกลความเจริญ ท่านเป็นศิษย์หลวงปู่อินทร์ ซึ่งเป็นอาจารย์ของหลวงพ่อคงวัดถนนหักใหญ่ซึ่งหลวงพ่อคงท่านเป็นอาจารย์ของหลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่ เคยมีคนเอาของของท่านไปลอง เป็นเครื่องยาสมุนไพรเป็นว่าน ท่านเอามาห่อผ้าให้คนเอาไปใช้บูชา ดีทางมหาอุดมาก ยิงไปนัด1นัด2ไม่ออก พอนัด3ปืนแตก มือแหก การเสกของท่านคล้ายกันกับหลวงปู่สี วัดถ้ำเขาบุนนาค คือจับๆแล้วเป่าๆแค่นั้น

...มีผู้กล่าวว่าท่านสำเร็จวิชาย่นระยะทางไป – กลับได้ กำหนดรู้เหตุการณ์ล่วงหน้า มีความศักดิ์สิทธิ์แม่นยำในการทำนายทายทักเหตุการณ์ต่างๆไว้ล่วงหน้าได้จริงเหมือนตาเห็น สามารถที่จะแสดงอิทธิฤทธิ์ตลอดจนคุณวิเศษต่างๆ ได้โดยไม่เคยอวดอ้าง ซึ่งวิชาดังกล่าวจะบังเกิดเฉพาะท่านที่ปฏิบัติทางวิปัสสนาธุระ จนกระทั่งได้ญาณสมาบัติขั้นสูงถึงขั้นอภิญญา 6 เท่านั้น อภินิหาร พุทธาคม และความศักดิ์สิทธิ์เป็นที่เล่าสืบทอดกันมา...
" ดังเมื่อย้อนไปครั้งที่ครูบาสร้อย ขันติสาโร ศิษย์เอก ในระหว่างอยู่ศึกษากับหลวงปู่สุขอยู่นั้น ท่านได้เกิดอาการปวดศีรษะอย่างแรงขณะปฏิบัติสมาธิอยู่บนศาลา จึงขอหลวงพ่อสุขไปพัก โดยระหว่างนั้นเองขณะนอนลงพัก วิญญาณของท่านก็ได้หลุดจากร่าง ซึ่งการมรณะ(วิญญาณหลุดจากร่างไป)ครั้งนี้ ท่านได้สิ้นลมไป 7 วันเต็ม ซึ่งในระหว่างนั้นหลวงปู่สุขได้ทำพิธีเพื่อตามท่าน นำท่านกลับมาได้ (ซึ่งวิชาเดียวกันนี้ท่านได้ใช้ช่วยชีวิตเด็กชาวกะเหรี่ยงให้ฟื้นคืนมาแล้ว)
...ท่านมีอภิญญาสูงเปี่ยมเวทย์วิทยาคม มีเมตตาไม่เคยยึดติด สมถะเรียบง่าย ไม่สะสม และไม่ยินดีในลาภยศสรรเสริญ เช่นที่หลวงปู่เคยกล่าวในคราวได้รับการแต่งตั้งให้เป็นพระครูฯว่า " ก็ข้าเป็นพระแล้วจะให้ข้าเป็นอะไรอีก "...ท่านนิยมสอนสมถกัมมัฏฐานและวิปัสสนากัมมัฏฐานให้กับบุคคลโดยทั่วไป ผู้ถือศีล สามเณร และพระภิกษุ โดยท่านจะให้ผู้ขอขึ้นกัมฏฐานกับท่านใช้องค์ภาวนาซึ่งเป็นภาษาเขมรว่า “อะ อา แอ๊ก ไอ นะ นู เน นิ นัง”

...ลูกศิษย์ใกล้ชิดจะทราบกันดีว่า หลวงปู่สุขท่านเก่งและสำเร็จในเรื่องยันต์ "นะ"...อย่างที่หลวงปู่โฉม วัดอัมภาราม(ลูกศิษย์ผู้ได้รับมองคันธนูอาคมจากหลวงปู่สุข) ท่านเคยเล่าให้ฟังตอนศิษย์จากกรุงเทพมาขอให้ท่านลงหลังให้ว่า " หลวงพ่อสุขท่านไม่เคยลงเลขยันต์อะไรมากมาย ท่านว่าแค่นะตัวเดียวก็ขลัง ซึ่งปัจจุบันวิชาสายนี้ก็คงเหลือเพียงไม่กี่องค์ที่ทำได้ "...ท่านยังบอกอีกว่า " หลวงพ่อสุขนี้เป็นพระอรหันต์มีพลังจิตลึกล้ำพิสดาร " และหลวงปู่สุขท่านไม่ค่อยจารวัตถุมงคลกันง่ายๆ ซึ่งจะหาวัตถุมงคลที่มีรอยจารได้ยากมากๆ คนทั่วไปมักรู้จักหรือได้ยินได้ฟังประสบการณ์ของหลวงปู่ด้านเหนียว คงกระพันเป็นหลัก หากแต่ยังไม่รู้ถึงด้านเสน่ห์เมตตามหานิยม อุดมทรัพย์ แคล้วคลาดปลอดภัย ทีมีครบเครื่องเช่นเดียวกัน

-อิทธิฤทธิ์ของว่าน-
...ว่านต่างๆ มีอภินิหารความศักดิ์สิทธิ์ไม่น้อยไปกว่าเวทย์มนต์พระคาถาเหมือนกัน โดย สามารถป้องกันภยันตรายต่างๆได้ เช่นอยู่ยงคงกระพันชาตรี คือใช้ของมีคมเช่น มีดฟันถูกร่างกายแล้ว ไม่เข้าเป็นบาดแผลตามปรกติทั่วๆไป อย่างมากเป็นเพียงรอยขีดบนผิวหนังเล็กๆ มีเลือดออกซิบๆ หรือบวมนูน เพราะรอยถูกฟันอย่างแรงให้แลเห็นเท่านั้น หรือใช้ปืนยิงมาก็ทำให้ยิงไม่ดัง ไม่มีลูกปืนออกมาถูกตัว หรือถ้ามีเสียงหรือมีลูกปืนออกมา ก็แคล้วคลาดไม่กระทบถูกร่างกายส่วนหนึ่งส่วนใด หรือถ้าหากกระทบถูกต้องร่ายกายก็ไม่มีบาดแผลปรากฏแก่ร่างกาย นอกจากแก่เสื้อผ้าที่สวมใส่ เป็นรอยถูกกระสุนไหม้เกรียม หรือเป็นรูขาดเท่านั้น เมื่อกินว่านเข้าไปแล้วทำให้มีกำลงเกิดขึ้นมากมาย มีใจฮึกเหิมไม่หวาดกลัวต่อบรรดาศาสตราวุธทั้งปวง สามารถต่อสู้เอาชนะคนหมู่มากที่รุมล้อมได้ บางชนิดทำให้เกิดเป็นเสน่ห์เมตตามหานิยมแก่ผู้มีว่านชนิดนั้นติดติว ว่านบางชนิดทำให้เกิดเป็นเสนียดจัญไรได้ บางชนิดใช้เป็นยารักษาโรคต่างๆ

...เนื่องด้วยพระเนื้อว่านมีการส่วนผสมของว่านนานาชนิด ซึ่งเป็นว่านอิทธิฤทธิ์เป็นส่วนใหญ่ และว่านอิทธิฤทธิ์ และว่านนี่เองที่ทำให้อิทธิคุณของพระว่านนั้น มีลักษณะที่โดดเด่นมากกว่าพระทั่วไปที่ไม่มีว่าน ปกติว่านต่างๆนั้นมีองค์ญาณที่รักษาว่านนั้นๆอยู่ หรือเทวดารักษาคุ้มครอง เพื่อป้องกันอันตรายที่จะเกิดแก่ว่านนั้นๆ เพราะว่านอิทธิฤทธิ์ในตัวนั้นเป็นสมบัติของโลก การที่จะเอาว่านมาทำเป็นพระได้ โบราณจารย์ก็มีเคล็ดวิธีการ เช่น ต้องไปเอาในวันอังคาร จึงจะเป็นว่านที่แสดงอิทธิฤทธิ์(เช่น ว่านทางคงกระพัน ว่านทางกันผีคุณไสยฯ) ถ้าจะเอาว่านให้มีฤทธิ์ทางยารักษาโรค ให้เอาวันพุธ การเอาก็ต้องไปจุดธูป บ้างห้ามพูดห้ามชี้ บ้างต้องบอกกล่าว โดยต้องบอกเองเออเอง ต้องไม่เข้าไปทำให้เงาของเราทับทาบต้นว่านนั้นด้วย และต้องเป็นว่านที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ

...บรรดาว่านต่างๆ ได้ถูกท่านโบราณอาจารย์ผู้ทรงวิทยาคุณทางคาถาอาคมขลังได้รวบรวมบรรดาหัวว่าน สำคัญต่างๆ ตั้ง 108 อย่างทำเป็นผงผสมกับเกษรไม้หอมเช่นพิกุล บุนนาค มะลิ บัวทั้ง 5 ประกอบด้วยผงวิเศษต่างๆ มีผงอิทธิเจ, ผงปถมัง, ผงตรีนิสิงเห, ผงมหาราช, ผงมหานิยม, ผงนะหน้าทอง, ผงอิติปิโส 108, ผงคัมภีร์, กาฝากมะนาว, กาฝากพุด, ไคลโบสถ์, ไคลเสมา, ชานหมากและของอื่น ๆ อีกมากมายหลายอย่าง โดยนำเอามาบดให้ละเอียดระคนรวมกันผสมน้ำมันตังอิ้วปั้นเป็นแท่ง ทำแม่พิมพ์ประทับเป็นองค์พระพิมพ์รูปต่าง ๆ เมื่อแห้งสนิทแล้วจึงนำเข้าพืธีพุทธาภิเศกพร่อมด้วยพระอาจารย์ผู้ทรงวิทยา คุณ ทำพีธิปลุกเศกคาถากำกับให้พระพิมพ์เหล่านั้นมีอิทธิ ฤทธิ์ต่าง ๆ ในทางอยู่ยงคงกระพันชาตรีบ้าง เป็นเมตตามหานิยมบ้างเรียกกันว่าพระเครื่องเป็นต้น และที่พระเครื่องทรงความศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ ก็ด้วยอภินิหารของว่านบันดาลช่วยเหลือเกื้อกูล พร้อมทั้งสรรพคาถาอาคมและดวงจิตอภิญญาของผู้เสก ที่เมื่อกรอปเข้าด้วยกันแล้ว ยิ่งเสริมทั้งอิทธิฤทธิ์ และบุญฤทธิ์ แก่ผู้ที่ได้บูชาคนใช้เท่านั้นจึงจะทราบดี

(พระผงว่านรุ่นแรก พิมพ์เล็บมือ)
...พระผงรุ่นแรก(เล็บมือ) หรือพิมพ์ครอบแก้ว จัดเป็น"พระพิมพ์"ในยุคแรกๆของหลวงปู่สุข โขลกตำจัดทำด้วยมือ กดพิมพ์ทำกันเองที่วัดตามตำราโบราณ แจกและออกให้บูชากับผู้ที่มากราบ ร่วมทำบุญกับทางวัด มีด้วยกันหลายเนื้อหลายสีหลายพิมพ์ ตามแต่จะหาส่วนผสมมาทำได้ในแต่และครั้ง ค่านิยมตามความสวย โดยเนื้อแดง(ว่านสบู่เลือด) และเนื้อดำ(ผงใบลาน) จะมีค่านิยมสูง แพงและหายากที่สุด ส่วนเนื้อสีเทาจะพบเจอได้มากกว่าค่านิยมรองลงมา มีเทาหลายโซนหลายเนื้อ...ไม่ว่าในยุคนั้นจนถึงยุคนี้ ก็ไม่ได้หาพระผงว่านที่ครบเครื่องแบบนี้กันได้ง่ายๆ ขอบอกสุดยอดคับ!

*พระผงผสมว่านรุ่นแรก จัดเป็นพระของหลวงปู่ที่น่าใช้มาก "ไม่ดีจิงไม่เอาไปอุดใต้รูปหล่อโบราณ"...คนไกล้ชิดในพื้นที่จะรู้ดีว่าท่านชอบว่าน ธุดงค์เดินทางไปไหนจะเสาะหาเก็บว่านตามตำราโบราณ ตามวัน ตามฤกษ์ยาม ตามพิธีกรรมมาใว้ใช้เป็นยา อาบ พกติดตัว และนำมาเป็นส่วนผสมในการทำพระเครื่อง ร่วมกับผงพุทธคุณ ผงใบลาน ธาตุกายสิทธิ์ เป็นต้น

...สุดยอดพระผงว่านในดวงใจ เปี่ยมด้วยอิทธิฤทธิ์ และบุญฤทธิ์ ศรัทธา อาราธนาใช้จะทราบว่าสุดยอดเพียงใด ไม่ขึ้นชื่อลือชาไม่นำมาอุดใต้ฐานรูปหล่อ(ราคาหลักแสนหลักล้าน)ให้ยุ่งยาก ปัจจุบันจัดอยู่ในทำเนียบสุดยอดพระเนื้อผงว่านแดนอิสาน และเมืองบุรีรัมย์ ให้ทั่วประเทศรู้ว่าบ้านเรามีดี!
ผู้เข้าชม
1581 ครั้ง
ราคา
คุยกันคับ
สถานะ
บูชาแล้ว
โดย
ชื่อร้าน
นนท์ มหาโชค
ร้านค้า
โทรศัพท์
ไอดีไลน์
0890999979
บัญชีธนาคารยืนยันตัวตน
ยังไม่ส่ง ข้อมูลยืนยันตัวตน

ผู้เข้าใช้งานล่าสุด
somemanน้ำตาลแดงErawanภูมิ IRfuchoo18Muthita
Zomlazzaliว.ศิลป์สยามปุณยนุชแหลมร่มโพธิ์tplasโจ๊ก ป่าแดง
เอก พานิชพระเครื่องokprakaew กจ.เปียโนเอี่ยวเสรีไทยBAINGERN
ปลั๊ก ปทุมธานีstp253ทองธนบุรีบ้านพระสมเด็จบ้านพระหลักร้อยหริด์ เก้าแสน
chaithawatPoosuphan89สยามพระเครื่องไทยngamkamolratchupongBeerchang พระเครื่อง

ผู้เข้าชมขณะนี้ 866 คน

เพิ่มข้อมูล

พระผงรุ่นแรก หลวงปู่สุข วัดโพธิ์ทรายทอง




  ส่งข้อความ



ชื่อพระเครื่อง
พระผงรุ่นแรก หลวงปู่สุข วัดโพธิ์ทรายทอง
รายละเอียด
" อันของ ดี มีอยู่แต่รู้ยาก
คนรู้มากไม่รู้ ดี มีอีกโข
อันของ ดี ใช่อยู่ที่คำโว
ต้องคนรู้ดูเป็นจึงเห็น ดี "

" โยภาวนาภิมัณฑัสสะ ปูชังนิจจังกะโรติโส ลาภัง ยะสัง สุขาทีนิ สัพพะทาอะธิคัชชะตีติ " นะโมพุทธายะ นะโมนะนะ 3จบ

(พระครูภาวนาภิมนฑ์)...หลวงปู่สุข ธรรมโชโต วัดโพธิ์ทรายทอง อ.ละหานทราย จังหวัดบุรีรัมย์ เกจิดังของอีสานใต้ ที่ชั่วโมงนี้ดังระดับประเทศ
...หลวงปู่สุข วัดโพธิ์ทรายทอง หลวงปู่สุข วัดโพธิ์ทรายทอง ท่านนับเป็นอาจารย์อีกรูปหนึ่งของหลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี ท่านพบหลวงปู่สุข คราวปลุกเสกงาน25พุทธศตวรรษ ที่ท้องสนามหลวง ขณะนั้นหลวงปู่โต๊ะ ท่านดังมาก ซึ่งเวลาพักจากปลุกเสกในพิธีนี้ หลวงปู่โต๊ะท่านทราบได้ด้วยจิต ว่าหลวงปู่สุขท่านเก่งมากมีพลังจิตแก่กล้ามาก เวลาพักปลุกเสกท่านให้ลูกศิษย์พาเข้าไปกราบหลวงปู่สุขเลย และขอฝากตัวเป็นศิษย์ ซึ่งภายหลังท่านได้ต่อวิชาหลายอย่างจากหลวงปู่สุข ขณะปลุกเสกงาน25พุทธศตวรรษนั้น ฝนตกหนัก ลูกศิษย์ท่านก็เอาใบจากมาทำเพิงบังฝน ลูกศิษย์เปียกปอนกันหมด แต่หลวงปู่สุขท่านจีวรไม่ได้เปียกฝนเลยแม้แต่น้อย จนเป็นที่กล่าวขานถึงความศักสิทธิ์ หลวงปู่สุขท่านเป็น"พระอรหันต์"ในที่ห่างไกลความเจริญ ท่านเป็นศิษย์หลวงปู่อินทร์ ซึ่งเป็นอาจารย์ของหลวงพ่อคงวัดถนนหักใหญ่ซึ่งหลวงพ่อคงท่านเป็นอาจารย์ของหลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่ เคยมีคนเอาของของท่านไปลอง เป็นเครื่องยาสมุนไพรเป็นว่าน ท่านเอามาห่อผ้าให้คนเอาไปใช้บูชา ดีทางมหาอุดมาก ยิงไปนัด1นัด2ไม่ออก พอนัด3ปืนแตก มือแหก การเสกของท่านคล้ายกันกับหลวงปู่สี วัดถ้ำเขาบุนนาค คือจับๆแล้วเป่าๆแค่นั้น

...มีผู้กล่าวว่าท่านสำเร็จวิชาย่นระยะทางไป – กลับได้ กำหนดรู้เหตุการณ์ล่วงหน้า มีความศักดิ์สิทธิ์แม่นยำในการทำนายทายทักเหตุการณ์ต่างๆไว้ล่วงหน้าได้จริงเหมือนตาเห็น สามารถที่จะแสดงอิทธิฤทธิ์ตลอดจนคุณวิเศษต่างๆ ได้โดยไม่เคยอวดอ้าง ซึ่งวิชาดังกล่าวจะบังเกิดเฉพาะท่านที่ปฏิบัติทางวิปัสสนาธุระ จนกระทั่งได้ญาณสมาบัติขั้นสูงถึงขั้นอภิญญา 6 เท่านั้น อภินิหาร พุทธาคม และความศักดิ์สิทธิ์เป็นที่เล่าสืบทอดกันมา...
" ดังเมื่อย้อนไปครั้งที่ครูบาสร้อย ขันติสาโร ศิษย์เอก ในระหว่างอยู่ศึกษากับหลวงปู่สุขอยู่นั้น ท่านได้เกิดอาการปวดศีรษะอย่างแรงขณะปฏิบัติสมาธิอยู่บนศาลา จึงขอหลวงพ่อสุขไปพัก โดยระหว่างนั้นเองขณะนอนลงพัก วิญญาณของท่านก็ได้หลุดจากร่าง ซึ่งการมรณะ(วิญญาณหลุดจากร่างไป)ครั้งนี้ ท่านได้สิ้นลมไป 7 วันเต็ม ซึ่งในระหว่างนั้นหลวงปู่สุขได้ทำพิธีเพื่อตามท่าน นำท่านกลับมาได้ (ซึ่งวิชาเดียวกันนี้ท่านได้ใช้ช่วยชีวิตเด็กชาวกะเหรี่ยงให้ฟื้นคืนมาแล้ว)
...ท่านมีอภิญญาสูงเปี่ยมเวทย์วิทยาคม มีเมตตาไม่เคยยึดติด สมถะเรียบง่าย ไม่สะสม และไม่ยินดีในลาภยศสรรเสริญ เช่นที่หลวงปู่เคยกล่าวในคราวได้รับการแต่งตั้งให้เป็นพระครูฯว่า " ก็ข้าเป็นพระแล้วจะให้ข้าเป็นอะไรอีก "...ท่านนิยมสอนสมถกัมมัฏฐานและวิปัสสนากัมมัฏฐานให้กับบุคคลโดยทั่วไป ผู้ถือศีล สามเณร และพระภิกษุ โดยท่านจะให้ผู้ขอขึ้นกัมฏฐานกับท่านใช้องค์ภาวนาซึ่งเป็นภาษาเขมรว่า “อะ อา แอ๊ก ไอ นะ นู เน นิ นัง”

...ลูกศิษย์ใกล้ชิดจะทราบกันดีว่า หลวงปู่สุขท่านเก่งและสำเร็จในเรื่องยันต์ "นะ"...อย่างที่หลวงปู่โฉม วัดอัมภาราม(ลูกศิษย์ผู้ได้รับมองคันธนูอาคมจากหลวงปู่สุข) ท่านเคยเล่าให้ฟังตอนศิษย์จากกรุงเทพมาขอให้ท่านลงหลังให้ว่า " หลวงพ่อสุขท่านไม่เคยลงเลขยันต์อะไรมากมาย ท่านว่าแค่นะตัวเดียวก็ขลัง ซึ่งปัจจุบันวิชาสายนี้ก็คงเหลือเพียงไม่กี่องค์ที่ทำได้ "...ท่านยังบอกอีกว่า " หลวงพ่อสุขนี้เป็นพระอรหันต์มีพลังจิตลึกล้ำพิสดาร " และหลวงปู่สุขท่านไม่ค่อยจารวัตถุมงคลกันง่ายๆ ซึ่งจะหาวัตถุมงคลที่มีรอยจารได้ยากมากๆ คนทั่วไปมักรู้จักหรือได้ยินได้ฟังประสบการณ์ของหลวงปู่ด้านเหนียว คงกระพันเป็นหลัก หากแต่ยังไม่รู้ถึงด้านเสน่ห์เมตตามหานิยม อุดมทรัพย์ แคล้วคลาดปลอดภัย ทีมีครบเครื่องเช่นเดียวกัน

-อิทธิฤทธิ์ของว่าน-
...ว่านต่างๆ มีอภินิหารความศักดิ์สิทธิ์ไม่น้อยไปกว่าเวทย์มนต์พระคาถาเหมือนกัน โดย สามารถป้องกันภยันตรายต่างๆได้ เช่นอยู่ยงคงกระพันชาตรี คือใช้ของมีคมเช่น มีดฟันถูกร่างกายแล้ว ไม่เข้าเป็นบาดแผลตามปรกติทั่วๆไป อย่างมากเป็นเพียงรอยขีดบนผิวหนังเล็กๆ มีเลือดออกซิบๆ หรือบวมนูน เพราะรอยถูกฟันอย่างแรงให้แลเห็นเท่านั้น หรือใช้ปืนยิงมาก็ทำให้ยิงไม่ดัง ไม่มีลูกปืนออกมาถูกตัว หรือถ้ามีเสียงหรือมีลูกปืนออกมา ก็แคล้วคลาดไม่กระทบถูกร่างกายส่วนหนึ่งส่วนใด หรือถ้าหากกระทบถูกต้องร่ายกายก็ไม่มีบาดแผลปรากฏแก่ร่างกาย นอกจากแก่เสื้อผ้าที่สวมใส่ เป็นรอยถูกกระสุนไหม้เกรียม หรือเป็นรูขาดเท่านั้น เมื่อกินว่านเข้าไปแล้วทำให้มีกำลงเกิดขึ้นมากมาย มีใจฮึกเหิมไม่หวาดกลัวต่อบรรดาศาสตราวุธทั้งปวง สามารถต่อสู้เอาชนะคนหมู่มากที่รุมล้อมได้ บางชนิดทำให้เกิดเป็นเสน่ห์เมตตามหานิยมแก่ผู้มีว่านชนิดนั้นติดติว ว่านบางชนิดทำให้เกิดเป็นเสนียดจัญไรได้ บางชนิดใช้เป็นยารักษาโรคต่างๆ

...เนื่องด้วยพระเนื้อว่านมีการส่วนผสมของว่านนานาชนิด ซึ่งเป็นว่านอิทธิฤทธิ์เป็นส่วนใหญ่ และว่านอิทธิฤทธิ์ และว่านนี่เองที่ทำให้อิทธิคุณของพระว่านนั้น มีลักษณะที่โดดเด่นมากกว่าพระทั่วไปที่ไม่มีว่าน ปกติว่านต่างๆนั้นมีองค์ญาณที่รักษาว่านนั้นๆอยู่ หรือเทวดารักษาคุ้มครอง เพื่อป้องกันอันตรายที่จะเกิดแก่ว่านนั้นๆ เพราะว่านอิทธิฤทธิ์ในตัวนั้นเป็นสมบัติของโลก การที่จะเอาว่านมาทำเป็นพระได้ โบราณจารย์ก็มีเคล็ดวิธีการ เช่น ต้องไปเอาในวันอังคาร จึงจะเป็นว่านที่แสดงอิทธิฤทธิ์(เช่น ว่านทางคงกระพัน ว่านทางกันผีคุณไสยฯ) ถ้าจะเอาว่านให้มีฤทธิ์ทางยารักษาโรค ให้เอาวันพุธ การเอาก็ต้องไปจุดธูป บ้างห้ามพูดห้ามชี้ บ้างต้องบอกกล่าว โดยต้องบอกเองเออเอง ต้องไม่เข้าไปทำให้เงาของเราทับทาบต้นว่านนั้นด้วย และต้องเป็นว่านที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ

...บรรดาว่านต่างๆ ได้ถูกท่านโบราณอาจารย์ผู้ทรงวิทยาคุณทางคาถาอาคมขลังได้รวบรวมบรรดาหัวว่าน สำคัญต่างๆ ตั้ง 108 อย่างทำเป็นผงผสมกับเกษรไม้หอมเช่นพิกุล บุนนาค มะลิ บัวทั้ง 5 ประกอบด้วยผงวิเศษต่างๆ มีผงอิทธิเจ, ผงปถมัง, ผงตรีนิสิงเห, ผงมหาราช, ผงมหานิยม, ผงนะหน้าทอง, ผงอิติปิโส 108, ผงคัมภีร์, กาฝากมะนาว, กาฝากพุด, ไคลโบสถ์, ไคลเสมา, ชานหมากและของอื่น ๆ อีกมากมายหลายอย่าง โดยนำเอามาบดให้ละเอียดระคนรวมกันผสมน้ำมันตังอิ้วปั้นเป็นแท่ง ทำแม่พิมพ์ประทับเป็นองค์พระพิมพ์รูปต่าง ๆ เมื่อแห้งสนิทแล้วจึงนำเข้าพืธีพุทธาภิเศกพร่อมด้วยพระอาจารย์ผู้ทรงวิทยา คุณ ทำพีธิปลุกเศกคาถากำกับให้พระพิมพ์เหล่านั้นมีอิทธิ ฤทธิ์ต่าง ๆ ในทางอยู่ยงคงกระพันชาตรีบ้าง เป็นเมตตามหานิยมบ้างเรียกกันว่าพระเครื่องเป็นต้น และที่พระเครื่องทรงความศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ ก็ด้วยอภินิหารของว่านบันดาลช่วยเหลือเกื้อกูล พร้อมทั้งสรรพคาถาอาคมและดวงจิตอภิญญาของผู้เสก ที่เมื่อกรอปเข้าด้วยกันแล้ว ยิ่งเสริมทั้งอิทธิฤทธิ์ และบุญฤทธิ์ แก่ผู้ที่ได้บูชาคนใช้เท่านั้นจึงจะทราบดี

(พระผงว่านรุ่นแรก พิมพ์เล็บมือ)
...พระผงรุ่นแรก(เล็บมือ) หรือพิมพ์ครอบแก้ว จัดเป็น"พระพิมพ์"ในยุคแรกๆของหลวงปู่สุข โขลกตำจัดทำด้วยมือ กดพิมพ์ทำกันเองที่วัดตามตำราโบราณ แจกและออกให้บูชากับผู้ที่มากราบ ร่วมทำบุญกับทางวัด มีด้วยกันหลายเนื้อหลายสีหลายพิมพ์ ตามแต่จะหาส่วนผสมมาทำได้ในแต่และครั้ง ค่านิยมตามความสวย โดยเนื้อแดง(ว่านสบู่เลือด) และเนื้อดำ(ผงใบลาน) จะมีค่านิยมสูง แพงและหายากที่สุด ส่วนเนื้อสีเทาจะพบเจอได้มากกว่าค่านิยมรองลงมา มีเทาหลายโซนหลายเนื้อ...ไม่ว่าในยุคนั้นจนถึงยุคนี้ ก็ไม่ได้หาพระผงว่านที่ครบเครื่องแบบนี้กันได้ง่ายๆ ขอบอกสุดยอดคับ!

*พระผงผสมว่านรุ่นแรก จัดเป็นพระของหลวงปู่ที่น่าใช้มาก "ไม่ดีจิงไม่เอาไปอุดใต้รูปหล่อโบราณ"...คนไกล้ชิดในพื้นที่จะรู้ดีว่าท่านชอบว่าน ธุดงค์เดินทางไปไหนจะเสาะหาเก็บว่านตามตำราโบราณ ตามวัน ตามฤกษ์ยาม ตามพิธีกรรมมาใว้ใช้เป็นยา อาบ พกติดตัว และนำมาเป็นส่วนผสมในการทำพระเครื่อง ร่วมกับผงพุทธคุณ ผงใบลาน ธาตุกายสิทธิ์ เป็นต้น

...สุดยอดพระผงว่านในดวงใจ เปี่ยมด้วยอิทธิฤทธิ์ และบุญฤทธิ์ ศรัทธา อาราธนาใช้จะทราบว่าสุดยอดเพียงใด ไม่ขึ้นชื่อลือชาไม่นำมาอุดใต้ฐานรูปหล่อ(ราคาหลักแสนหลักล้าน)ให้ยุ่งยาก ปัจจุบันจัดอยู่ในทำเนียบสุดยอดพระเนื้อผงว่านแดนอิสาน และเมืองบุรีรัมย์ ให้ทั่วประเทศรู้ว่าบ้านเรามีดี!
ราคาปัจจุบัน
คุยกันคับ
จำนวนผู้เข้าชม
1649 ครั้ง
สถานะ
บูชาแล้ว
โดย
ชื่อร้าน
นนท์ มหาโชค
URL
เบอร์โทรศัพท์
0890999979
ID LINE
0890999979
บัญชีธนาคารยืนยันตัวตน
ยังไม่ส่ง ข้อมูลยืนยันตัวตน




กำลังโหลดข้อมูล

หน้าแรกลงพระฟรี